นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีการให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการพิจารณาเกี่ยวกับ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่าจะมีการประกาศต่อหรือจะมีมาตรการออกมาในรูปแบบใดนั้น ตนเห็นว่าตั้งแต่มีการประกาศใช้เมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 เพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มาตรการป้องกันด้านการสาธารณสุข การปิดสถานที่ป้องกันการเคลื่อนที่ของผู้คนหรือใช้อำนาจในทางที่มีผลต่อการกระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยเฉพาะการเดินทาง ถึงตอนนี้ระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กำลังเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว หากวิเคราะห์ในสถานการณ์ปัจจุบันต้องถือว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้เสียชีวิตน้อยมากและขณะนี้ก็ไม่มีผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศเกิน 14 วันแล้ว จึงเห็นว่าการเข้าสู่การใช้ชีวิตอย่างปกติของประชาชนแล้ว แต่เพิ่มเติมคือมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่ทุกคนช่วยกันและรับผิดชอบตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากาก พกเจลล้างมือ หรือนั่งห่างกัน 1.5 เมตรหากต้องเข้าร้านอาหาร ดังนั้นในด้านความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้นจะมีหรือไม่มีก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นหรือสังคมจะปลอดภัยมากขึ้นในตอนนี้
โดยนายจิรวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องอำนาจในทางกฎหมายนั้นที่นายวิษณุบอกว่า พ.ร.บ. โรคติดต่อหลายเรื่องไม่สามารถที่จะบริหารจัดการเหมือนอย่างการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หรือเพราะการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ทำให้สามารถปิดสนามบินได้ หรือเพื่อควบคุมผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละแห่งให้ฟังรัฐบาลออกมาตรการในทิศทางเดียวกันนั้น ตนเห็นว่าต่อให้ไม่มีอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รัฐบาลก็สามารถสั่งการได้อยู่แล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล สั่งการผ่านยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดังนั้น ถ้าบอกว่ารัฐบาลสั่งปิดสนามบินไม่ได้ สั่งผู้ว่าฯให้มีมาตราการไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาลไม่ได้ ก็แสดงว่านากยรัฐมนตรีไม่มีภาวะผู้นำทางการเมืองหรือบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้นายจิรวัฒน์ กล่าวว่า การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เอาไว้นั้น จะกลายเป็นการสวนทางกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่ขณะนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนกับมาเกือบเป็นภาวะปกติทั้งหมดแล้ว และเท่ากับว่าสถานการณ์ปัจจุบันจากตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตไม่ถือว่าประเทศอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่อยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวังมากกว่า แต่รัฐบาลยังมีแนวโน้มที่จะดำเนินการบังคับใช้ต่อ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่ากฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจรัฐมากเกินไป เกินกว่าที่ประชาชนและสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถตรวจสอบได้ เพราะการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ไม่สามารถขอให้ศาลปกครองตรวจสอบการใช้อำนาจได้ รวมถึงไม่ต้องมีการขออนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร จึงทำให้ต้องคิดต่อไปว่าในวาระโอกาสหน้ากฎหมายนี้ควรจะแก้ อย่างน้อยประชาชนสามารถร้องต่อศาลปกครองให้ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้ยกเลิกได้ รวมถึงควรได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐสภาเป็นคราวๆ ไป
"ต่อ" - Google News
June 09, 2020 at 04:29PM
https://ift.tt/37iOQyz
“จิรวัฒน์”มองไม่จำเป็นต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน - สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0
No comments:
Post a Comment