1 กรกฎาคม 2563
380
ตลาดการเงินฝั่งสหรัฐกลับมาสดใส หุ้นกลับมาเป็นบวก ขณะที่เงินบาทยังซื้อขายในกรอบแคบ นักลงทุนไม่ได้รับความสนใจมากนัก จากความเสี่ยงด้านนโยบายและช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าลงมาก่อนสกุลเงินเพื่อนบ้านแล้ว
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.92 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.87 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 30.80-31.00 บาทต่อดอลลาร์
โดยหุ้นในสหรัฐปิดไตรมาสที่สองอย่างสดใส ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.5% รวมตลอดทั้งสามเดือนที่ผ่านมาถือเป็นการฟื้นตัวถึง 18.0% ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1998 สวนทางกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างบอนด์ ที่ยีลด์สหรัฐอายุ 10ปีทยอยปรับตัวขึ้น 3bps มาที่ระดับ 0.66% และนักลงทุนเลือกที่จะถือทองคำบนความกังวลว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐยังไม่สามารถควบคุมได้ จนล่าสุดราคาขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1781 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากตลาดหุ้น ราคาน้ำมันก็ทำสถิติใหม่ด้วยการปรับตัวขึ้นแรงที่สุดในรอบ 30ปี ถึง 91% ในไตรมาสนี้ ภาพดังกล่าวกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักจากการแข็งค่าของสกุลเงินที่เคลื่อนไหวอ้างอิงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นออสเตรเลีย (AUD) และนิวซีแลนด์ดอลลาร์ (NZD)
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก ที่น่าสนใจมีเพียงการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในฝั่งสหรัฐ(U.S. Conf. Board Consumer Confidence) ซึ่งชี้ว่ามุมมองของชาวอเมริกันดีขึ้นใสกกว่าคาดขึ้นมาที่ระดับ 98.1จุดขณะที่ความคาดหวังในอนาคต ปรับตัวสูงขึ้นต่อไปที่ระดับ 106จุด สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งปี 2562ไปเป็นที่เรียบร้อย
ด้านเงินบาทยังคงซื้อขายในกรอบแคบ แม้สกุลเงินในภูมิภาคจะฟื้นตัวขึ้นจากตลาดหุ้นที่กลับมาบวก แต่เงินบาทดูจะไม่ได้รับความสนใจมากนักเนื่องจากมีความเสี่ยงด้านนโยบายและในช่วงที่ผ่านมาก็แข็งค่าลงมาก่อนสกุลเงินเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งช่วงเดือนที่ผ่านมาถือเป็นการแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่มกราคม 2562ในอนาคตจึงต้องจับตาทิศทางการคลายล็อคดาวน์ของทั่วโลก เชื่อว่าน่าจะเป็นปัจจัยหนุนจากสกุลเงินเอเชียและเศรษฐกิจไทยได้มากที่สุด
"ต่อ" - Google News
July 01, 2020 at 07:49AM
https://ift.tt/2BQsDfQ
'เงินบาท' เปิดตลาดเช้านี้ 'อ่อนค่า' ที่ 30.92 บาทต่อดอลลาร์ - กรุงเทพธุรกิจ
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0
No comments:
Post a Comment