Pages

Sunday, August 30, 2020

ความเห็นของสมาชิกเฟดต่อการเปลี่ยนมาใช้เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย - โพสต์ทูเดย์

apaksulan.blogspot.com

ความเห็นของสมาชิกเฟดต่อการเปลี่ยนมาใช้เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย

วันที่ 31 ส.ค. 2563 เวลา 07:07 น.

คอลัมน์ มันนี่วีก (Money week) โดย...พีรพรรณ สุวรรณรัตน์, มนัสวิน ฐิติสมบูรณ์ สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย

สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยประเมินว่าเงินบาทผันผวนสูงต่อเนื่อง โดยอยู่ในกรอบ 31.10-31.50 หลังจากที่นายเจอร์โรม โพเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณกลับกรอบนโยบายการเงินมากำหนดเป้าหมายเป็นอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ 2% ทำให้คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำยาวนาน แต่ตลาดยังคงรอรายละเอียดของการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป โดยเฉพาะจากความเห็นของสมาชิกเฟดหลายท่าน อาทิ เบรนนาร์ด คลาริดา และเมสเตอร์ ซึ่งเป็นสมาชิก FOMC ที่มีสิทธิออกเสียง ปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของเงินดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังต้องติดตามใกล้ชิด แม้ว่าที่ผ่านมา สหรัฐฯ จะส่งสัญญาณว่าจะทำให้ข้อตกลงการค้ากับจีนระยะที่ 1 ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังมีปัจจัยใหม่ที่อาจกระทบต่อเงินเยน เนื่องจากการประกาศลาออกของนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีด้วย

ภาพรวมตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.15 -31.65 เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัสรอบที่ 2 และความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นหลังจากตัวเลขการส่งออกไทยเดือนกรกฎาคมหดตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาด โดยการส่งออกหดตัว 11.4% ในเดือนกรกฎาคม ลดลงจากเดือนก่อนที่หดตัวถึง 23.2% และหดตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 18.8% ทั้งนี้ เงินบาทยังเคลื่อนไหวแข็งค่าลงต่อเนื่องในช่วงกลางสัปดาห์แม้ความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์ในทะเลจีนใต้สูงขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนทดลองยิงขีปนาวุธลงสู่น่านน้ำบริเวณเกาะไหหลำและหมู่เกาะพาราเซล ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีน 24 แห่งที่สนับสนุนรัฐบาลจีนในข้อพิพาททะเลจีนใต้ ในช่วงปลายสัปดาห์ เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ภายหลังนายเจอร์โรม โพเวล ประธานเฟดประกาศการปรับกรอบนโยบายการเงินเป็นแบบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย (Average Inflation Target) ในงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล ซึ่งทำให้เฟดสามารถปล่อยให้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำยาวนานขึ้น โดยการปรับกรอบนโยบายเป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยจะทำให้เงินเฟ้อสามารถเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ได้ในระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายในช่วงก่อนหน้า เพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เงินบาทปิดตลาดที่ 31.16 (วันศุกร์ เวลา 17.00 น.)

ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดคงหนีไม่พ้นถ้อยแถลงของคุณเจอร์โรม โพเวล ในงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล โดยใจความสำคัญอยู่ที่การประกาศปรับกรอบนโยบายการเงินจากการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) มาเป็นการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ 2% (Average Inflation Targeting หรือ AIT) ซึ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายและเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ การใช้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะทำให้เฟดสามารถปล่อยให้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำยาวนานขึ้น ขณะเดียวกันก็ยอมให้เงินเฟ้อสามารถเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ได้ในระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายในช่วงก่อนหน้า เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ โดยการปรับนโยบายในครั้งนี้เป็นการเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะข้างหน้า หลังจากที่เงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมายมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปกติแล้วมีความอ่อนไหวต่อตัวเลขเงินเฟ้อโดนเทขายออกมา โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10ปี ปิดทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน ส่วนทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา มีตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยตัวเลขอยู่ที่ 84.8 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเดือนก่อนและการคาดการณ์ของตลาดที่ 91.7 และ 93.0 ตามลำดับ เนื่องจากชาวอเมริกันยังคงกังวลต่อแนวโน้มการจ้างงานและภาวะธุรกิจในประเทศ ขณะที่ยอดการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเท่ากับที่ตลาดคาดที่ 1 ล้านรายในสัปดาห์ก่อน จาก 1.1 ล้านรายในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น และตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ ไตรมาสที่ 2 ปรับปรุงรอบสองดีขึ้นมาอยู่ที่ -31.7%QoQ saar จาก -32.9% ในรายงานรอบแรกและดีกว่าที่ตลาดคาดที่ -32.5%

ขณะที่ตัวเลขในประเทศมีการประกาศตัวเลขการส่งออกไทยเดือนกรกฎาคมหดตัว 11.37%YoY ลดลงจากเดือนก่อนที่หดตัว 23.20% ขณะที่ตลาดคาดจะหดตัว 18.75% ทั้งนี้ การส่งออกไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ หดตัว 13%YoY ด้านการนำเข้าหดตัว 26.38% ซึ่งหดตัวมากกว่าเดือนก่อนที่หดตัว 18.1% สำหรับความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามตลาดโลก ซึ่งเป็นการปรับตัวโดยที่เส้นอัตราผลตอบแทนมีความชันสูงขึ้น โดย ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2563 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุ 1, 2, 3, 5, 7 และ 10ปี อยู่ที่ 0.50% 0.55% 0.64% 0.94% 1.16% และ 1.52% ตามลำดับ

กระแสเงินทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิประมาณ 6,415 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 3,716 ล้านบาท ซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 10,796 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 665 ล้านบาท

Let's block ads! (Why?)



"ต่อ" - Google News
August 31, 2020 at 07:13AM
https://ift.tt/3hJJfFU

ความเห็นของสมาชิกเฟดต่อการเปลี่ยนมาใช้เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย - โพสต์ทูเดย์
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0

No comments:

Post a Comment