"แต่ก่อน... ผู้ค้าขนส่งสินค้าด้วยตัวเอง จากศูนย์กลางคลังสินค้าของตัวเอง ดังนั้น ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องดำเนินการทั้งหมดเอง ...แต่ตอนนี้ ผู้ค้าสามารถใช้บริการผ่านคลังสินค้าโดย ‘อเมซอน’..."
แถม ‘เจ้าพ่ออเมซอน’ ยังแอบขายของนิดๆ ผ่านการให้การด้วยว่า ‘อเมซอน’ ยังมีตัวเลือกการบริการที่น่าสนใจให้ผู้ค้าอีกอย่าง คือ ‘Buy Box’ ที่ผู้ใช้อเมซอนสามารถกดคลิกสินค้าได้เลย ถือเป็นการสนับสนุนผู้ค้า ‘โดยอ้อม’ (นะรู้ไหม...)
"ทาง ‘อเมซอน’ คัดสรรสินค้าอย่างพิถีพิถันสำหรับ Buy Box ซึ่งได้มีการพยากรณ์ถึงสิ่งที่ลูกค้าอาจถูกใจมากที่สุด นั่นรวมถึง ‘ราคา’ ด้วย อีกทั้งยังมีการขนส่งที่รวดเร็ว และหากว่าเป็นสมาชิกที่ดีเลิศมาตลอด ก็จะมี ‘ไอเท็ม’ ที่คุณสมบัติเหมาะสมกับความดีเลิศเช่นกัน"
หายใจโล่งได้แปปเดียว...
‘เจ้าพ่ออเมซอน’ ก็ถูกรัวอีกคำถาม คราวนี้ข้อกล่าวหาการ ‘ขโมย’ และ ‘ปลอมแปลง’ สินค้าบน ‘อเมซอน’ ที่เขาให้การด้วยการเชื่อว่า ‘อเมซอน’ มีเงื่อนไขกำหนดให้ ‘ผู้ค้า’ ต้องใช้ชื่อและที่อยู่จริง แต่ก็ไม่แน่ใจว่า "เบอร์โทรศัพท์มีการกำหนดเงื่อนไขไว้หรือเปล่า?"
อ้าว...?
แต่ ‘เขา’ ไม่ยอมจำนนนะ ยังหวดแรงซัดไปทาง ‘คู่แข่ง’ ที่เฉพาะเจาะจงไปที่ ‘โซเชียลมีเดีย’ ว่า การแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระเป็น ‘อันตราย’
แถมยังบอกอีกว่า ตัวเขาเริ่มจะมีอาการท้อแท้และหมดกำลังใจเล็กๆ แล้ว ต้นเหตุก็เพราะ ‘โซเชียลมีเดีย’ ที่เหมือนดั่งเครื่องจักรทำลายล้างความแตกต่าง
"…และผมไม่คิดว่า นั่นเป็นการสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย"
คำวิจารณ์ของ ‘เจ้าพ่ออเมซอน’ ซัดกันโต้งๆ ต่อหน้ายักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดีย ‘เฟซบุ๊ก’ (Facebook)
แล้ว ‘คนที่เหลือ’ คิดเห็นอย่างไร?
‘ทิม คุก’ ให้ความเห็นว่า "หากว่าคุณเป็น ‘ใครสักคน’ ที่มีมุมมองแตกต่าง และถูกพวกเขา ‘คว่ำบาตร’ ...ผมไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดี ผมคิดว่า มันคงจะดีหากว่าประชาชนจะได้รับฟังมุมมองที่แตกต่างและตัดสินใจด้วยตัวพวกเขาเอง"
แล้ว ‘เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก’ ล่ะคิดเห็นอย่างไร?
"ผมกังวลมากๆ เกี่ยวกับการบังคบ ‘อเสรีนิยม’ ผมเห็นว่า ประเทศเราควรผลักดันการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ"
เคลียร์ไหมข้อกล่าวหานี้?
เคลียร์แล้ว แต่ยังไม่จบ..
เมื่อสมาชิกสภาฯ ซัดอีกข้อกล่าวหาใส่ ‘เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก’ ที่ยอมให้ ‘แพลตฟอร์ม’ เป็นแหล่งกำเนิดการให้ข้อมูลผิดๆ เพื่อผลกำไรของบริษัทตัวเอง!!
"ไม่ได้บีบบังคับให้ ‘คุณ’ ต้องเป็น ‘ตำรวจ’ ประจำแพลตฟอร์ม แต่แม้ในระหว่างวิกฤติสาธารณสุขระหว่างประเทศที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของพวกเรา ‘คุณ’ ก็ยังยอมให้มีบทความที่สร้างความเสียหายแก่ชีวิตอยู่บนแพลตฟอร์ม จนยอดอ่านเป็นล้าน!"
โดยข้อกล่าวหาที่ว่านี้ ทางสมาชิกสภาฯ ได้อ้างอิงถึงบทความที่มียอดอ่านหลักล้านที่เกี่ยวกับ ‘โควิด-19’ (COVID-19) มาประกอบ เช่น บทความที่บอกว่า ประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ (Donald Trump) กำลังพิจารณายาฆ่าเชื้อภายในร่างกาย หรือบทความที่กล่าวหาว่า ‘ไวรัสโคโรนา’ (Coronavirus) เป็นโฆษณาเกินจริง ที่หวังผลหลอกลวงทางการเมือง
แต่ ‘เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก’ ก็ให้การยืนยันว่า ‘เฟซบุ๊ก’ มีการจัดอันดับการแสดงผลบนหน้าฟีดโดยมีพื้นฐานมาจากอะไรก็ตามที่มีประโยชน์มากที่สุดต่อผู้ใช้
แถมยังแก้ตัว... เอ๊ย! ปกป้องนโยบายเฟซบุ๊กด้วยว่า มีการแยกข้อมูลปลอมที่อาจนำอันตรายเข้ามา และทำไฮไลท์โพสต์ที่น่าเชื่อถือแทน
แต่ก็โดนสมาชิกสภาฯ สวนกลับด้วยการหยิบยกวิดีโอของเว็บไซต์อนุรักษ์นิยม ‘เบรตบาร์ต’ (Breitbart) ที่พยายามลดทอนความจำเป็นของ ‘หน้ากาก’ และเรียก ‘ไฮดรอกซีคลอโรควิน’ (Hydroxychloroquine) ว่าเป็นยารักษา ‘โควิด-19’ ซึ่งกว่า ‘เฟซบุ๊ก’ จะลบออกไป ยอดก็พุ่งทะยานนานหลายชั่วโมงแล้ว
งานนี้ ‘เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก’ ให้การอ้อมแอ้มไปว่า คนแชร์เยอะ ยอดเลยพุ่ง แต่ก็เอาลงนะ เพราะละเมิดนโยบาย
หากคุณเดาว่า ‘เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก’ ต้องโดนตอกกลับอีก ก็เดาถูกแล้ว เพราะสมาชิกสภาฯ ได้แย้งถามกลับไปว่า "ลบ...หลังจากที่มีคนเห็นแล้ว 20 ล้านคน และหลังจากที่แสดงผลมากว่า 5 ชั่วโมงน่ะหรือ? ไม่เสนอแนะอะไรหน่อยหรือ ‘มิสเตอร์ซักเกอร์เบิร์ก’ แพลตฟอร์มของ ‘คุณ’ ใหญ่มาก มีนโยบายสิทธิควบคุม แต่ ‘คุณ’ ยังไม่สามารถยับยั้งคอนเทนต์ที่เป็นอันตรายได้เลยไม่ใช่หรือ?"
เจ็บแบบคันๆ!!
ไม่ต้องพักเบรกมาต่ออีกข้อกล่าวหา ที่คราวนี้โดนถ้วนหน้าทั้ง 4 คน กับประเด็น ‘รัฐบาลจีน’ ขโมยเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกา
คำกล่าวหาแรงที่กระทบอีกซีกโลก มีเพียง ‘มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก’ เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เอ่ยปากบอกว่า ข้อกล่าวหาที่ว่านี้มีข้อมูลสนับสนุนที่บอกได้ว่า ‘รัฐบาลจีน’ ขโมยเทคโนโลยีจากบริษัทอเมริกัน
แตกต่างกับอีก 3 คน ที่ให้การแบบอ้อมๆ แอ้มๆ ว่า
‘เจ้าพ่อแอปเปิล’ ที่ให้การว่า "ผมไม่มีความรู้ส่วนบุคคลเกี่ยวกับการขโมยเทคโนโลยีของจีน"
‘เจ้าพ่ออเมซอน’ ที่ให้การว่า "ผมเคยอ่านมาหลายรายงานที่เกี่ยวกับการขโมยเทคโนโลยีโดย ‘ปักกิ่ง’ (Beijing) แต่ยังไม่มีประสบการณ์ตรง นอกจากการขายสินค้าปลอมแปลงบน ‘อเมซอน’ เท่านั้น"
และ ‘เจ้าพ่อกูเกิล’ ที่ตอนแรกให้การไปทางเดียวกับคนอื่นๆ แต่ภายหลังมีการรวบรวมบันทึกที่มีการยืนยันในปี 2552 ถึงกรณี ‘จีน’ ขโมยข้อมูล ‘กูเกิล’ ในการโจมตีทางไซเบอร์ที่เป็นที่รู้กันทั่ว
สุดท้ายในข้อกล่าวหานี้ ทั้ง ‘4 เจ้าพ่อเทคโนโลยี’ เลยได้ย้อนถามกลับไปว่า “รัฐสภาจะช่วยปกป้องบริษัทอเมริกันจากต่างชาติอย่างไร?”
คงต้องรอคำตอบ...
มาถึงคิวของ ‘เจ้าพ่อแอปเปิล’ กันบ้าง ที่โดนข้อกล่าวหา ‘ผูกขาดธุรกิจ’ และ ‘กีดกันคู่แข่ง’ ด้วยการลบแอพพลิเคชันออกจาก ‘แอพสโตร์’ (App Store)
ย้อนไปเดือนกันยายน 2561 ‘แอปเปิล’ เปิดตัวแอพพลิเคชันของตัวเองที่เรียกว่า Screentime ที่อนุญาตให้ผู้ปกครองจำกัดเวลาการใช้สมาร์ทโฟนของลูกๆ ได้ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ‘แอปเปิล’ ก็ลบแอพพลิเคชันคู่แข่งออกทันที จนมีการยื่นคำร้องทุกข์ไปยังคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission)
แน่นอนว่า ‘เจ้าพ่อแอปเปิล’ ให้การว่า ถอดออกเพราะกังวลความเป็นส่วนตัว
"พวกเรากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็ก"
แต่ก็โดนสมาชิกสภาฯ สวนกลับว่า "แล้วทำไม ‘แอปเปิล’ ถึงไม่ถอดแอพพลิเคชันที่สร้างโดย ‘รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย’ ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันออก? ฟังคล้ายกับว่า ‘คุณ’ นำกฎที่แตกต่างมาใช้กับแอพพลิเคชันที่เป็นแบบเดียวกัน"
ซึ่ง ‘เจ้าพ่อแอปเปิล’ ก็ยืนยันว่า ไม่เคยมีความสนิทสนมกับแอพของซาอุฯ เลย กฎที่ใช้กับนักพัฒนาแอพก็เป็นไปอย่างเท่าเทียม
ต่อกันที่ ‘เจ้าพ่อกูเกิล’ กันบ้าง ที่ถูกข้อกล่าวหา ‘ขโมยคอนเทนต์’
ซึ่ง ‘เจ้าพ่อกูเกิล’ ยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง ย้ำ "พวกเราโฟกัสถึงการจัดหาคอนเทนต์ที่สัมพันธ์กันที่สุด"
แต่สมาชิกสภาฯ ไม่เห็นอย่างนั้น ชี้หลักฐานเกี่ยวกับ ‘กูเกิล’ ที่มีการนำคอนเทนต์จากเว็บไซต์อื่นๆ และการสั่งซื้อโฆษณามาวางบนผลการค้นหา
ถึงท้ายที่สุด ‘เจ้าพ่อกูเกิล’ ก็ยังยืนยันว่า ‘กูเกิล’ โฟกัสมากๆ ที่จะนำเสนอสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ มีการแข่งขันอย่างแข็งขัน ทั้งการท่องเที่ยวหรืออสังหาริมทรัพย์ และยังทำงานอย่างหนักในการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดอะไรใหม่ๆ
เรียกว่าการไต่สวนเป็นไปอย่างดุเดือดเข้มข้น ที่ในบ้านเราไม่เคยจะมีให้เห็น นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น การไต่สวนนานหลายชั่วโมง กับคำให้การของ ‘4 เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี’ คุณคิดเห็นอย่างไร?.
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ข่าวอื่นๆ:
"ต่อ" - Google News
August 01, 2020 at 05:30AM
https://ift.tt/39LppqT
คำต่อคำ ไต่สวน "4 เจ้าพ่อเทคโนโลยี" รัวคำถาม บี้ทุกข้อหา - ไทยรัฐ
"ต่อ" - Google News
https://ift.tt/2TWExL0
No comments:
Post a Comment